ศิลปะแบบอิมเพรสชันนิสม์ (IMPRESSIONISM)



ศิลปะแบบอิมเพรสชันนิสม์ (IMPRESSIONISM)


คำว่า อิมเพชรชั่นนิสม์ รัฐ จันทร์เดช (๒๕๒๒,๕๓) ได้ให้ความหมายว่า ความรู้สึกประทับใจของมนุษย์จากสิ่งแวดล้อมที่เป็นสิ่งเร้าใจ คำนี้เพิ่งจะมีผู้ยอมรับและเห็นด้วยว่า มีความหมายแจ่มแจ้งก็ต่อเมื่อ มาเนท์ แสดงผลงานกับพวก ๓๐ คน ครั้งแรกในปี ๑๘๔๗ โดยเฉพาะภาพเขียนของมาเนท์ ที่ชื่อว่า ดวงอาทิตย์ขึ้น ให้ความหมายชัดเจนที่สุด


วิวัฒนาการของทัศนศิลป์กลุ่มนี้ เนื่องจากเบื่อหน่ายต่อการเลียนแบบกรีกโรมัน และกลุ่มเรียลิสม์ที่เขียนในสิ่งที่เหมือนจริง ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ทางจิตวิทยา จนการค้นคว้าเรื่องสีสำเร็จ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินกลุ่มนี้ใช้สี และแสงเงาอย่างอิสระ ส่วนเรื่องราวนิยมวาด เกี่ยวกับมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมที่มองเห็นแล้วเกิดความประทับใจ ละทิ้งเรื่องราวทางศาสนาและนิยายโบราณ ศิลปินในลัทธินี้ริเริ่มออกไปวาดนอกสถานที่เพื่อให้เรื่องสี และแสงเงา ในขณะนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นในแนวทางทัศนศิลป์สากลในเวลาต่อมา


สาเหตุการสร้างงานทัศนศิลป์ลัทธิอิมเพรสชั่นนิสม์
1. สนองจิตใจของผู้สร้างและผู้ชมในขณะนั้น
2.ความเชื่อเรื่องความประทับใจ ต่อสิ่งที่ได้พบเห็นจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

สุนทรียภาพและรูปแบบงานจิตรกรรมลัทั่นนิสม์
1. แสดงรูปทรงธรรมชาติและเรขาคณิตธิอิมเพรสช สี แสงเงา เส้น และจุด
2. เรื่องราวเกิดจากความประทับใจในธรรมชาติละสิ่งแวดล้อมไม่แสดงเรื่องนิยายโบราณ และศาสนาประจำชาติใดชาติหนึ่ง
3. วาดภาพอย่างอิสระตามความรู้สึกของศิลปินที่ประทับใจในสิ่งที่ตนเองเห็นและผู้ชมทั่วไป เข้าใจภาพได้เพราะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่เหมือนๆ กัน
4. ใช้แสง เงา และสี อย่างจริงจัง เพราะว่านอกสถานที่
5. บางครั้งใช้ฝีแปลงหยาบๆ เป็นรอยแปลงให้แสงผสมกับสี มองดูใกล้และจะเป็นภาพไม่สวย ถ้ามองดูไกล จะเห็นรูปทรงและเรื่องราวของภาพชัดเจน
6. ระยะหลังระบายสี ด้วยการขีดเป็นเส้น และจุดสีเล็กๆ แสดงแสงและเงาให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้น หนา บางเกิดมิติ เรียกว่า กลุ่มโพสต์อิมเพรสชั่นนิสม์
7. รูปแบบเป็นรูปธรรมมีตัวตน สามารถมองเห็นรูปทรงแต่ละประประเภทได้

Cr: angiegroup.wordpress.com
.
#drafting