พลังแห่งสี Color Therapy

สีสันไม่ใช่เพียงการรับรู้ผ่านทางสายตาเท่านั้น แต่เมื่อเรามองไปยังสีต่างๆ กลไกประสาทสัมผัสผ่านสายตาส่งผลได้ทั้งด้านอารมณ์ ความรู้สึก มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเรา และยังส่งผลไปถึงระบบฮอร์โมน และสภาพจิตใจมากกว่าที่คิด ปัจจุบันนักจิตวิตยาจึงนำเอาประโยชน์ของความรู้สึกต่อสีสันต่างๆ นำมาปรับใช้เพื่อการบำบัดความเจ็บป่วยทั้งร่างกายและจิตใจ ด้วยศาสตร์พลังแห่งสี Color Therapy โดยที่สีกลุ่มโทนร้อนและเย็น ต่างก็ให้พลังความรู้สึกที่แตกต่างกัน ที่เราเองก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้

สีโทนร้อน ให้ความรู้สึกได้ถึงพลังที่เร่าร้อน กระตุ้นความกระฉับกระเฉง กระตือรือร้น ร่าเริงสดใส ความมีชีวิตชีวา มีผลกระตุ้นความอยากอาหารอีกด้วย


 

สีเหลือง : ความสุขสดใสและสุขภาพที่ดี

สีเหลืองมีความหมายถึงความรู้สึกรื่นเริงเบิกบาน การมองโลกในแง่ดีมีจินตนาการที่สดใส กระตุ้นพลังความคิดสร้างสรรค์ และมีผลด้านจิตใต้สำนึกให้เรารู้สึกระวังภัย พลังแฝงของสีช่วยให้ระบบประสาท กล้ามเนื้อ ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น กระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้ ระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดีรู้สึกเจริญอาหาร สีเหลืองมีผลที่ช่วยเยียวยาหัวใจของผู้ที่กำลังมีอาการท้อแท้ได้ กลับกันหากเป็นสีเหลืองหม่นกลับให้ความรู้สึกถึงความเจ็บป่วยอ่อนแอเพราะ

.


สีส้ม : ความสนุกสนานมองโลกในแง่ดี

เฉดสีโปรดของเด็กๆ เพราะสีส้มให้อารมณ์ถึงความมีชีวิตชีวา ความสนุกสนาน การผจญภัย ความมั่นใจที่เต็มเปี่ยมพลัง สื่อถึงฤดูใบไม้ผลิและการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ สีส้มจึงมีพลังบำบัดสภาวะจิตใจ ระบบประสาท การหายใจ ช่วยการดูดซึมอาหาร กระเพาะ ลำไส้ กระตุ้นความหิว นักจิตวิทยามักจะนำเอาสีส้มมาใช้บำบัดอาการซึมเศร้าเรียกพลังความสดชื่นของชีวิตกลับคืนมาด้วยเฉดสีส้มอันสดใส

.



สีแดง : ความรัก ความกล้าหาญ

สีแดงมีผลกระตุ้นประสาทได้รุนแรงที่สุด เพราะเป็นสีที่สื่อถึงความรัก เซ็กซ์ ความตื่นเต้น ท้าทาย ความกล้าหาญ มีผลต่อฮอร์โมนอะดรีนาลีนทำให้ร่างกายตื่นตัว กระตุ้นการกสร้างเม็ดเลือด ปรับระดับความดัน กระตุ้นประสาททำให้ประสาทสัมผัสตื่นตัวและมีการตอบสนองที่ดีขึ้น จึงมักจะนำสีแดงสดมาใช้ในโฆษณาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและกล้าแสดงออก กระตุ้นความตื่นเต้น และใช้สีแดงที่อ่อนลงแสดงถึงความประณีต ความสุขและสงบ


สีม่วง : ความร่ำรวยและสูงส่ง ความผิดหวัง ความโศกเศร้า

สีม่วงสื่อถึงความสูงส่ง ความร่ำรวย ลึกลับ ความสง่างาม หากแต่ให้ความรู้สึกถึงความเศร้าโศก ไว้อาลัย และเพ้อฝันในคราวเดียวกัน ในแง่ของอาการเจ็บป่วย สีม่วงนำมาใช้บำบัดผู้ป่วยโรคไต กระเพาะปัสสาวะ และไขข้อ สีม่วงถูกนำมาใช้ช่วยสงบจิตใจที่ว้าวุ่นให้มีสมาธิมากขึ้น ช่วยให้เกิดแรงบันดาลใจและการตัดสินใจต่างๆ ง่ายขึ้น

สีโทนเย็น

มีส่วนช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายความกังวล รู้สึกสบายใจ เหมาะกับการนำมาใช้ลดความตึงเครียด ทั้งเพื่อการพักผ่อนและใช้เพื่อลดความเครียดจากการทำงานหนัก

.

 

สีฟ้า : ความสงบ ปัญญา ความเยือกเย็น

 

สีที่ทำให้จิตใจสงบเยือกเย็นได้มากที่สุด เพราะมีส่วนกระตุ้นสารเคมีในร่างกายให้รู้สึกถึงความปลอดภัย รู้สึกอิสระและปลอดโปร่ง ผ่อนคลายลงได้มากที่สุด สีฟ้ามีคุณสมบัติที่ดีต่อโรคปอดและโรคที่เกี่ยวกับลำคอ


 .

 

สีน้ำเงิน : ความเยือกเย็น แรงบันดาลใจทางศิลปะ

 

สีโทนน้ำเงินสื่อถึงฐานะของสังคมชั้นสูง ความร่ำรวย ความรู้ ความเฉลียวฉลาด และความไว้เนื้อเชื่อใจ เหมาะกับการสร้างบรรยากาศสุขุม ดูเป็นมืออาชีพ และเป็นสีที่ให้ร่างกายรู้สึกถึงความสมดุลและแข็งแรง บำบัดอาการของโรคทางเดินหายใจ 

.



สีเขียว : ธรรมชาติ การเติบโต ความหวังและความสมดุล

การมองสีเขียวช่วยผ่อนคลายประสาทตา ผ่อนคลายระบบประสาทและความดันโลหิตของเราลงได้ นอกจากนี้ยังมีพลังช่วยให้จิตใจรู้สึกสงบ รู้สึกสดชื่น ลดความเหนื่อยล้าความตึงเครียดของทั้งร่างกายและจิตใจ ลดความวิตกกังวลลงได้ สีเขียวยังเป็นสัญลักษณ์สากลถึงคำว่า ผ่านไปได้ด้วยดี อีกด้วยจึงทำให้มองเห็นแล้วรู้สึกผ่อนคลาย เฉดสีเขียวอ่อนแสดงถึงความสดชื่น ร่าเริง แต่สีเขียวแก่กลับทำให้นึกถึงความแก่ชรา และความเบื่อหน่าย

.

สีดำ : พลังอำนาจ ความทุกข์ และความกลัว

สีดำสื่อถึงความมืดอันลึกลับ สิ่งที่มองไม่เห็น ไม่อาจคาดเดาได้ ความชั่วร้าย แต่ก็ให้ความรู้สึกถึงความหรูหรา รสนิยมหรู พลังอำนาจการควบคุม และสื่อถึงความสิ้นสุดของอะไรบางอย่าง สีดำเป็นสีของพลังงานด้านลบที่ให้บรรยากาศไม่เป็นมิตรในจิตใต้สำนึกของมนุษย์ และอาจทำให้รู้สึกอึดอัดไม่สบายใจเมื่ออยู่ในบรรยกาศสีดำ เป็นขั้วตรงข้ามกับสีขาวที่สื่อถึงความปลอดภัย เรียบง่ายและความสะอาดบริสุทธิ์ ที่ส่งพลังงานด้านบวกได้

 

 

 

.

ถึงแม้การบำบัดอาการทางกายยังไม่อาจให้ผลที่ชัดเจนนัก แต่การนำศาสตร์ด้านสีบำบัดก็ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลกเพราะพลังที่ช่วยบำบัดทางอารมณ์และนำไปประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ ได้จริง หากสังเกตดีๆมีการใช้จิตวิทยาของสีซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวันของเราทั้งในด้านศิลปะ การถ่ายภาพ การถ่ายภาพยนตร์ การตกแต่งสถานที่และในแง่ของแฟชั่น